วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

วีถีชาวบ้าน ปากน้ำประแสร์


ตำบลปากน้ำกระแสเป็นตำบลหนึ่งใน 15 ตำบล ของอำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่ติดต่อกับทิศตะวันออกของอ่าวไทย ห่างจากอำเภอเมืองระยองประมาณ 64 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 189.492 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนประชากรทั้งหมด 7,140 คน
( ข้อมูลตำบลปากน้ำกระแส ปี 2543 )

สภาพภูมิประเทศของชุมชนปากน้ำประแส เป็นที่ราบเชิงเขาตลอดไปถึงทะเลตะวันออกของอ่าวไทย ทิศเหนือส่วนใหญ่คงสภาพป่าไม้ซึ่งมีแหล่งต้นน้ำลำธาร แม่น้ำพังราด แม่น้ำประแส ทำให้สภาพพื้นที่เหมาะแก่การทำไร่ ทำสวน สมบูรณ์ไปด้วยผลไม้ ไม้ยืนต้น เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด และสวนยางพารา สภาพพื้นดินโดยทั่วไปเป็นดินร่วนระบายน้ำได้ดี บริเวณตอนใต้เป็นโคลนตมเหมาะสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม ทำฟาร์มกุ้งกุลาดำ ทำฟาร์มหอยนางรม ตามชายฝั่งทะเล สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปเป็นลักษณะมรสุมเมืองร้อน เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลประกอบกับสภาพป่า ตอนเหนือเป็นสวนผลไม้ จึงทำให้ฝนตกในช่วงเดือนพฤษภาคม เดือนกันยายนอยู่เสมอ
สภาพเศรษฐกิจอาชีพสำคัญของชาวบ้านในชุมชนปากน้ำประแสนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของการยึดอาชีพประมง หากินทางทะเลทั้งเรือใหญ่และเรือเล็ก มีสมาคมประมงปากน้ำประแสร์ ปัจจุบันสัตว์น้ำในอ่าวไทยลดน้อยลงชาวประมงต้องหากินไกลขึ้น ต้นทุนการประกอบอาชีพก็สูงขึ้น อีกทั้งมีความเสี่ยงที่จะต้องถูกจับในน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านก็สูงขึ้น จึงมีการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามชายฝั่ง โดยมีการทำฟาร์มกุ้งกุลาดำ และฟาร์มหอยนางรม จากการที่ประชาชนมีการประกอบอาชีพประมงทางทะเลกันมาก จึงมีอีกอาชีพหนึ่งที่เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเฉพาะกิจการประมง คือ อู่ซ่อมเรือ โรงงานปลาป่นในชุมชน และกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทะเล

 
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นับว่าเป็นศาลหนึ่งที่มีความสำคัญและเคารพรักกับชาวปากน้ำประแสร์มาก ทั้งยังเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จมาเปิดศาล วางศิลาฤกษ์ด้วยตนเอง  อันมีบันทึกของเสด็จในกรม ว่าไว้  "เจอบันทึกนี้ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของ พระปิยะมหาราชขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีมันผู้ใดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดเร็ว ก่อนที่กูจะสังหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู ตราบใดคำว่า อาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลกนี้ กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดที่ให้ที่ซุกหัวนอนให้ความร่มเย็นเป็นสุขมิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น           



ศาลเจ้าแม่ตะเคียนงาม ที่ชาวบ้านปากน้ำประแสร์รู้จักดี ก็เป็นจุดหนึ่งที่นักเสี่ยงโชคควรจะไปเยี่ยมชม








                      
  สำหรับวัดตะเคียนงาม เป็นวัดเก่าแก่ ที่มีต้นตะเคียนคู่เป็นสัญลักษณ์ ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นต้นตะเคียนคู่เจ้าแม่และเจ้าพ่อ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุกว่า 500 ปี จึงเป็นที่มาของชื่อวัดตะเคียนงาม และยังมีศาลเจ้าแม่ตะเคียน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล
 
ประมวลภาพวิถีชาวบ้านปากน้ำประแสร์







การทำกะปิ ก็เป็นหนึ่งในอาชีพพื้นบ้านของชาวประแสร์ แถมยังเป็ขของฝากชั้นดีติดมือกลับไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น